เมื่อโรคของผู้ป่วยดำเนินมาถึงระยะสุดท้าย ผู้ป่วยบางคนเลือกที่จะไม่รักษาตัวที่โรงพยาบาลเพื่อหลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่วุ่นวาย แต่ผู้ป่วยบางคนก็ไม่สะดวกที่จะใช้ชีวิตช่วงวันสุดท้ายที่บ้านเพราะไม่มีคนที่พร้อมดูแลหรือสถานที่ไม่เอื้ออำนวย ในกรณีนี้ผู้ป่วยอาจเลือกใช้ชีวิตในช่วงสุดท้ายของชีวิตที่ฮอสพิซ (Hospice) และเสียชีวิตที่นั่น
อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงการบริการในสถานดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายยังมีลักษณะจำกัด หากฮอสพิซยังไม่สามารถผนวกไปอยู่ในระบบสุขภาพได้ ผู้ป่วยและครอบครัวจะต้องเป็นผู้จ่ายค่าบริการด้วยตนเอง ดังนั้นผู้ป่วยรายได้น้อยหรือคนไร้บ้านจึงยากจะเข้าถึงการดูแลแบบประคับประคองระยะสุดท้ายในฮอสพิซ
แต่ขณะนี้ คนไร้บ้านที่ซาคาเมนโต แคลิฟอร์เนีย ดูจะมีหวังที่จะได้รับการดูแลในช่วงสุดท้ายของชีวิตมากขึ้น เพราะอาจารย์แพทย์วัยเกษียน มาลีน วอนฟรีเดอร์ริช-ฟิทซ์วอร์เทอร์ (Marlene vonFriederich-Fitzwater) กำลังริเริ่มสร้างฮอซพิซเพื่อคนไร้บ้านโดยเฉพาะ เนื่องจากเธอเพิ่งสูญเสียหลานชายซึ่งใช้ชีวิตเป็นคนไร้บ้านจากปัญหายาเสพติดและปัญหาในครอบครัว ก่อนจะเสียชีวิตที่ถนนสายหนึ่งในเมืองเนบราสก้า ในวัยเพียง 34 ปี
“ฉันเคยเป็นมะเร็ง นั่นเป็นช่วงเวลาที่ยากมาก ฉันจินตนาการไม่ออกเลยว่า สำหรับคนไร้บ้านที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะท้ายจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง” มาลีนกล่าว
ความสูญเสียที่เกิดขึ้นทำให้เธอสนใจศึกษาความต้องการด้านสุขภาพของคนไร้บ้าน เธอจัดสนทนากลุ่มและสัมภาษณ์คนไร้บ้านกว่าร้อยคน จึงพบว่าความกังวลที่พวกเขามีร่วมกันคือ ความยากลำบากในการมีชีวิตช่วงสุดท้ายก่อนตาย
มาลีนจึงตัดสินใจซื้ออาคารเก่าของวิทยาลัยแห่งหนึ่งเพื่อดัดแปลงเป็นสถานดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายเพื่อคนไร้บ้านโดยเฉพาะในชื่อ Joshua’s house (บ้านโจชัว) เพื่อเป็นที่ระลึกถึงหลานชายของเธอนั่นเอง
เบื้องต้น เธอวางแผนที่จะจัดสถานบริการรองรับ 16-20 เตียง และจะเปิดบริการในปีนี้ที่ซาคาแมนโต เมืองที่เธออาศัยและทำงานมาโดยตลอด ฮอสพิซจะเชื่อมโยงทรัพยากรจากโรงพยาบาลและระบบบริการสุขภาพในท้องถิ่น รวมทั้งสนับสนุนคุณภาพชีวิตด้านอื่นๆ ของคนไร้บ้านด้วย เช่น อาหาร เสื้อผ้า รวมถึงมิตรภาพจากคนในชุมชน
นับว่าเป็นโชคดีของคนไร้บ้านในซาคาแมนโต แคลิฟอร์เนีย ที่มีคนเห็นความลำบากและยื่นมือช่วยเหลือพวกเขาแม้ในวาระสุดท้าย แอดมินเองก็หวังว่าคนไร้บ้านในสังคมไทยจะมีโอกาสเข้าถึงการบริการสุขภาพเช่นนี้มากขึ้นในอนาคตเช่นกัน
ติดตามความเคลื่อนไหวบ้านโจชัวได้ที่
https://www.thehcri.org/our-programs/joshuas-house/
ที่มา:
https://www.thehcri.org/grandson-died-streets-shes-planning-hospice-homeless-name/