- คลังความรู้
- ดอกไม้จากกองปฏิกูล
ดอกไม้จากกองปฏิกูล
เข้าใจความจริงของชีวิตจากความเน่าเปื่อย
เรื่องโดย ธารา ศรีอนุรักษ์
เราอาจเคยได้ยินสุภาษิตที่ว่า ไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่ง อันส่งผลให้ธุรกิจด้านความงามเฟื่องฟูมาทุกยุคสมัย ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความสวยความงามครองโฆษณาตามสื่อต่าง ๆ ชนิดเปิดทีวีช่องไหนก็เจอ ผู้คนยอมเสียเงินเสียทอง ยอมเจ็บปวด เพื่อศัลยกรรมความงามในแบบสมัยนิยม น้อยคนนักยอมรับความจริงว่า ร่างกายนี้เป็นที่อยู่ของสิ่งปฏิกูล
ทั้ง ๆ ที่ว่ากันตามจริงแล้ว สิ่งปฏิกูลคือความสัจจะ ที่เห็นว่าสวยว่างามล้วนมายา ฟันไม่แปรงสักวันสองวันย่อมมีกลิ่น ผมไม่สระสักอาทิตย์เริ่มมีปัญหา ร่างกายไม่อาบน้ำความหม่นหมองกลิ่นไม่พึงประสงค์ย่อมตามมา
อาจารย์ช่วง มูลพินิจ เคยพูดเกี่ยวกับนามสกุลของท่านว่า มูลพินิจ หมายถึง พิจารณามูล มูลคืออุจจาระ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากในด้านการแพทย์ หมอวินิจฉัยโรคได้จากการตรวจอุจจาระ-ปัสสาวะของผู้ป่วย สิ่งปฏิกูลบ่งบอกสุขภาพ ความงามฉาบฉวยภายนอกไม่อาจบอกอะไรได้ นอกจากใช้หลอกตาเพื่อความลุ่มหลงทางกามารมณ์เท่านั้น
บทสวดพิจารณาสังขาร มุ่งเน้นให้เหล่าโยคาวจรเห็นจริงในชีวิตท่อนหนึ่ง ว่า
อะจิรัง วะตะยัง กาโย ร่างกายนี้หนอ ในไม่ช้า
ปะฐะวิง อะธิเสสสะติ จักนอนทับพื้นดิน
ฉุฑโฑ อะเปตะวิญญาโณ ถูกทอดทิ้ง ปราศจากวิญญาณ
นิรัตถัง วะ กะลิงคะรัง ประดุจท่อนไม้และท่อนฟืนที่หาประโยชน์มิได้
อยากจะยกเรื่องผู้หญิงงามคนหนึ่งในสมัยพุทธกาลมาประกอบตรงนี้ นางมีชื่อว่า สิริมา แค่ชื่อก็บอกแล้วว่า นางผู้นี้เป็นผู้มีสิริโฉมปานใด นางสิริมามีตำแหน่งเป็น นครโสภิณี ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งอันทรงเกียรติในสมัยนั้น ผู้ที่รับตำแหน่งนี้ต้องเพียบพร้อมไปด้วยรูปสมบัติ ตอนหลังนางมีจิตเลื่อมใสพุทธศาสนา นิมนต์พระสงฆ์มารับบิณฑบาตเป็นนิตย์ เวลาใส่บาตรนางมีความประณีตตั้งอกตั้งใจอย่างมาก ทุกอากัปกิริยาเรียบร้อยสวยงามสมกับหน้าตา จนพระสงฆ์เหล่านั้นพอกลับถึงวัดพากันพรรณนาความงามทั้งกิริยาและหน้าตาของนางสิริมากันยกใหญ่ ภิกษุหนุ่มรูปหนึ่งได้ยินเข้าก็เกิดความรัก ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เห็นหน้า พอรุ่งขึ้นอีกวันก็ขอไปรับบิณฑบาตบ้านนางสิริมา
เช้าวันนั้นนางสิริมาไม่สบาย แต่ก็ยังขวนขวายที่จะถวายอาหารบิณฑบาต พระหนุ่มพอเห็นถึงเกิดกิเลสหลงรักหัวปักหักปำ ฉันอะไรไม่ได้ ถือบาตรกลับวัด เอาจีวรปูแทนเสื่อ นอนจับสั่นคลั่งรัก เพ้อเรียกชื่อแต่นางสิริมา ๆ
แต่แล้วเย็นวันนั้นเองนางสิริมาก็ได้เสียชีวิต พระราชาแจ้งข่าวการตายของนางสิริมาให้พระพุทธเจ้ารับทราบ เพื่อจะสอนธรรมภิกษุหนุ่มซึ่งตอนนี้ไม่ยอมกินไม่ยอมนอน ด้วยฤทธิ์คลั่งรักนางสิริมา พระองค์รับสั่งบอกพระราชาอย่าเพิ่งเผาศพนางสิริมาให้รักษาไว้ตลอดสี่วัน ศพนางสิริมาพอถึงวันที่สามก็เน่า มีน้ำหนองเยิ้มออกจากปากทวารทั้งเก้า พอถึงวันที่สี่พระราชาประกาศบอกชาวเมืองราชคฤห์ทุกคนยกเว้นเด็กให้มาดูศพนางสิริมา พระพุทธองค์ก็เรียกประชุมสงฆ์เพื่อดูศพนางสิริมา ภิกษุหนุ่มรูปนั้นนอนซมโดยไม่รู้ว่านางสิริมาตายแล้ว พอได้ยินว่าพระพุทธเจ้าสั่งให้ไปดูนางสิริมา รีบลุกขึ้น มีเรี่ยวแรงขึ้นมาทันที รีบครองจีวรออกไปร่วมประชุม
เมื่อทั้งภาครัฐนำโดยพระราชา และสงฆ์มารวมพร้อมกันแล้ว พระพุทธเจ้าตรัสสั่งให้มีการประมูลร่างนางสิริมา ตั้งราคาตั้งแต่หลักแสน เมื่อไม่มีใครเอาก็ลดมาหลักหมื่น หลักพัน หลักร้อย หลักสิบ จนกระทั่งราคาหนึ่งบาท ก็ไม่มีใครเอา สุดท้ายประกาศยกให้ฟรี ผู้คนยังเงียบเหมือนเดิม ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ตอนนางสิริมายังมีชีวิต เศรษฐี คฤหบดี ต่างแย่งกันอยากได้ตัวนางสิริมา สู้ราคากันแบบไม่เกี่ยง ถึงตอนนี้พระพุทธเจ้าจึงตรัสสอนธรรม โดยตรัสเป็นคาถามีใจความให้พิจารณาร่างกายที่ถูกปรุงแต่งขึ้นจากเนื้อหนังหุ้มกระดูกสามร้อยท่อน เต็มไปด้วยสิ่งปฏิกูล พอเทศนาจบประชาชนในที่นั่นบรรลุธรรมจำนวนมาก เนื่องจากได้เห็นภาพร่างเน่าเปื่อยของนางสิริมาประกอบธรรมอย่างชัดเจน ส่วนภิกษุหนุ่มรูปนั้นก็ได้บรรลุโสดาบัน
วัดวิเศษการ คณะสอง สถานที่ฉันภัตตาหารพระสงฆ์สามเณรรวมถึงเหล่าเด็กวัด เจ้าคณะ (ผู้ทำหน้าที่ปกครองรองจากเจ้าอาวาส) ติดรูปสิ่งปฏิกูลไว้รอบ ๆ อย่างเห็นได้ชัด เพื่อสอนธรรมไม่ให้พระเณรหลงรสอาหาร จนลืมจุดประสงค์แท้ ๆ ของการบริโภคอาหาร ตามบทพิจารณาบิณฑบาตที่ว่า เราย่อมพิจารณาโดยแยบคายแล้วฉันบิณฑบาต ไม่ให้เป็นไปเพื่อความเพลิดเพลิน สนุกสนาน ไม่ให้เป็นไปเพื่อความเมามัน เกิดกำลังพลังทางกาย ไม่ให้เป็นไปเพื่อประดับไม่ให้เป็นไปเพื่อตกแต่ง แต่ให้เป็นไปเพียงเพื่อความตั้งอยู่ได้แห่งกายนี้ เพื่อความเป็นไปได้แห่งอัตภาพ เพื่อความสิ้นไปแห่งความลำบากทางกาย เพื่ออนุเคราะห์แก่การประพฤติพรหมจรรย์ ฯลฯ
สำหรับคนเจริญอาหาร ต้องการจะลดความอ้วน หรือลดปริมาณการบริโภคให้กับตัวเอง ลองทำตามบ้างก็ได้ หารูปสิ่งปฏิกูลมาติดไว้ตามโต๊ะอาหาร ในมุมที่สามารถมองเห็นถนัด ไม่อาจเปือนสายตาหนี ความลุ่มหลงในรสชาติอาหารอาจลดลง อันจะส่งผลดีต่อสุขภาพสำหรับคนน้ำหนักเกินความพอดีที่ร่างการต้องการ
เรื่องสิ่งปฏิกูลนี้ ได้เจอกับตัวเองตอนทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยมีศักดิ์เป็นคุณยายของภรรยา วัยเก้าสิบห้าปี ลูกสาวอยู่ต่างประเภทไม่สะดวกมาดูแล ลูกชายทำงานราชการอยู่อีกที่ไม่สามารถดูแลตลอดได้ ในฐานะหลานเขย (มารดาภรรยาผู้เขียน เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว) อาสานำคุณยายมาดูแลที่บ้าน
การได้ดูแลคนชรา โดยเฉพาะคนชรานอนติดเตียง ทำให้เห็นธรรมะอย่างเป็นรูปธรรม ร่างกายคนเราเมื่อถึงที่สุดใกล้วันแตกดับตามอายุสังขาร บทพิจารณาสังขารที่ว่า ร่างกายนี้ไม่ตั้งอยู่นาน ครั้นปราศจากวิญญาณจักนอนทับซึ่งแผ่นดินดุจท่อนไม้ท่อนฟืน หาประโยชน์มิได้ ปรากฏชัดมาก เห็นอาหารสำเร็จรูปเอนชัวร์ที่ไหลทางท่อสายยางผ่านจมูกลงสู่กระเพาะ รูปสีกลิ่นรสของเหลวนั้นดูไม่น่ากิน มองไม่ต่างสิ่งปฏิกูล แต่มันคือสารอาหารที่มีประโยชน์จำเป็นสำหรับต่อชีวิตให้ผู้ได้รับ สายยางลำเลียงสารอาหารเข้าทางจมูกลงกระเพาะแล้วขับถ่ายออกมาเป็นอุจจาระ คนเราแสวงหา ดิ้นรน ทำงานหาเงินเพื่อเอาเงินไปซื้ออาหารบำเรอลิ้น อาหารบางอย่างราคาแพงมหาศาลจนเกินจินตนาการก็ยังเสาะแสวงหามาตอบสนองความอยากทางรส สุดท้ายแล้วร่างกายไม่ได้ต้องการอาหารรสเลิศหรูหราจากเชฟดังอะไรเลย สารอาหารของเหลวที่มองดูคล้ายสิ่งปฏิกูลต่างหาก ทำหน้าที่ยืดเวลาให้ร่างกายห้วงสุดท้ายอยู่ได้
ตอนเปลี่ยนผ้าอ้อมเห็นกองอุจจาระ แรก ๆ ต้องเบือนหน้าหนี กลั้นหายใจ แต่หลายวันเข้า จิตใจสัมผัสใกล้ชิดสิ่งปฏิกูลซึ่งร่างกายขับออก อันเป็นธรรมดาสามัญมนุษย์ทุกระดับฐานะ สิ่งปฏิกูลตรงหน้าสอนธรรมให้เข้าใจยอมรับ ก่อนหน้าจะเป็นสิ่งปฏิกูลคือสารอาหารที่ผ่านสายยางเข้าไปแล้วออกมาทางทวารหนัก ช่วงเช็ดตัวทำความสะอาดอวัยวะเพศก็เช่นกัน ทวารทั้งเก้าล้วนเป็นทางไหลออกของเหลวของเสีย ไม่ทำความสะอาดก็อับชื้นเหม็นเน่า หลายคนลุ่มหลงช่วงชิงเนื้อหนังมังสาถึงขนาดต้องทำลายชีวิตกันและกัน เพราะอยากครอบครองปากทวารอันเป็นทางไหลออกของของเสียเน่าเหม็น
เห็นดอกไม้ (คือความจริงของชีวิต) จากสิ่งปฏิกูล
พิจารณาสิ่งปฏิกูลเพื่อเพิ่มพูนภูมิคุ้มกันใจไม่ให้ลุ่มหลง
ใจที่ไม่ลุ่มหลงย่อมพบความสงบ