ดร.ชิงชัย หาญเจนลักษณ์ ได้พบและตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกับ คุณหญิงจำนงศรี หรือป้าศรีของพวกเรา ในวัยใกล้เกษียณ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นชีวิตคู่ครั้งที่สองของทั้งสองท่าน โดยก่อนหน้านั้นไม่นาน ดร.ชิงชัย เพิ่งสูญเสียภรรยาจากความเจ็บป่วย แต่เพราะยอมรับความเป็นจริงตามธรรมชาติ ทำให้ท่านสามารถก้าวข้ามความเสียใจจากความพลัดพรากจากลา จนสามารถเริ่มต้นความรักครั้งใหม่ที่สวยงามได้

ดร.ชิงชัย พบกับคุณสุดา ภรรยาคนแรกจากการทำงานที่กรมวิเทศสหการ หลังจากคบหากันมาระยะหนึ่งก็ตัดสินใจแต่งงานเมื่ออายุ 30 ปี ด้วยหน้าที่การงานของ ดร.ชิงชัย จึงต้องย้ายไปทำงานที่ประเทศแคนาดา และได้ทราบว่า ภรรยามีโรคประจำตัวคือ ธาลัสซีเมีย ต้องได้รับการรักษาและถ่ายเลือดเป็นระยะ ๆ 

หลังจากเริ่มต้นชีวิตคู่กันที่ประเทศแคนาดาได้ 3 ปีครึ่ง ดร.ชิงชัย ได้รับการแต่งตั้งเป็น Regional Director ของ IDRC จึงย้ายครอบครัวมาอยู่ที่สิงคโปร์ งานทำให้ต้องเดินทางไปต่างประเทศตลอดเวลา ช่วงที่ภรรยายังแข็งแรงก็สามารถเดินทางไปด้วย แต่ช่วงหลังเมื่อต้องเดินทางไปหลายประเทศที่ไม่ค่อยสะดวกสบาย ภรรยาก็ไม่ได้ติดตามไปอย่างเคย หลังจากอยู่ที่สิงคโปร์ยาวนานถึง 17 ปีก็ย้ายครอบครัวกลับเมืองไทย โดย ดร.ชิงชัย ยังคงต้องเดินทางบ่อย ๆ เพื่อไปดูแลโครงการในประเทศเวียดนาม ในช่วงนั้นเองก็ได้รับข้อมูลจากหมอว่า ภรรยาน่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่เกิน 3 ปี 

การรับรู้ถึงปัญหาสุขภาพของภรรยามาตลอด ทำให้เตรียมใจไว้อยู่เสมอว่า ถึงอย่างไรก็ต้องมีวันพลัดพรากจากกัน แต่การรับรู้ข่าวร้ายครั้งนั้นก็ยังทำให้รู้สึกใจหาย เมื่อรู้ว่าเหลือเวลาอีกไม่นาน ดร.ชิงชัย จึงพยายามดูแลภรรยาอย่างเต็มที่ ตั้งสติอยู่กับความเป็นจริง เพื่อทำหน้าที่ของสามีให้ดีที่สุดจนวาระสุดท้าย

แน่นอนว่าเมื่อถึงวันพลัดพรากย่อมรู้สึกเสียใจ แต่การได้ดูแลภรรยาจนสุดความสามารถในตลอด 24 ปีของชีวิตคู่ ทำให้ ดร.ชิงชัย สามารถยอมรับการจากพรากนั้นด้วยดี ท่านเล่าว่า ช่วงหลัง ๆ ที่ภรรยามีปัญหาสุขภาพและไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศด้วย มีส่วนช่วยให้รู้สึกคุ้นเคยกับการอยู่คนเดียว และรับมือกับการสูญเสียได้ง่ายขึ้น 

และการสูญเสียภรรยาคนแรกทำให้มีมุมมองความรักแบบใหม่กับชีวิตคู่ เมื่อแต่งงานครั้งที่สองกับป้าศรีในวัยผู้ใหญ่ 

“การมีความรักใหม่ไม่ได้หมายความว่าความรักเก่าไม่มีคุณค่า มันเปรียบเทียบกันไม่ได้เลย เหมือนเอาหนังสือสองเล่มมาเย็บติดกัน เป็นหนังสือที่เขียนใหม่ แค่เอามาเย็บติดกันเท่านั้น การสูญเสียคู่ครองตอนเป็นผู้สูงวัย ยิ่งต้องให้ความสำคัญกับเรื่องปัจจุบัน และก้าวข้ามเรื่องที่สูญเสียไปให้ได้” ดร.ชิงชัยกล่าว

เพราะความรัก ความทรงจำ ไม่ใช่สิ่งที่จะลบเลือน หรือทดแทนกันได้ง่าย ๆ แต่ในขณะที่ยังมีลมหายใจอยู่ ทุกคนก็ยังสามารถมีความสุขกับชีวิตได้ การพลัดพรากสูญเสียเป็นเรื่องปกติและเกิดขึ้นเสมอ แต่ไม่ได้ทำให้ชีวิตหยุดแค่ตรงนั้น ทุกคนยังควรให้โอกาสตัวเอง และเดินต่อไปให้ชีวิตมีความสุขที่สุด นั่นจึงทำให้ ดร.ชิงชัย ไม่ได้ปิดตัวเองกับการเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่ในวัยใกล้เกษียณกับคุณป้าศรี 

ความรักสวยงามเสมอ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาใดของชีวิตก็ตาม

ย้อนกลับไปในปี 2540 ป้าศรีในวัย 57 ปี กับ ดร.ชิงชัย ในวัย 54 ย่าง 55 ปี ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน ทั้งสองท่านเคยผ่านชีวิตคู่ และการสูญเสียคู่ชีวิตมาแล้ว เมื่อมาพบกันจากการทำงานโครงการเพื่อสังคมโครงการหนึ่ง ก็เกิดความประทับใจ จึงสานต่อความสัมพันธ์ด้วยการคุยทางอีเมล ซึ่งในยุคนั้นเป็นวิธีการสื่อสารที่ยังใหม่มาก จนวันหนึ่งป้าศรีก็เขียนถามตรง ๆ ว่า “Shall we get married?” และ ดร.ชิงชัย ก็ตอบกลับตรง ๆ ว่า “Why not?” 

แล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองท่านก็เริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจัง...

พอตกลงกันแล้ว ป้าศรีมาบอกลูก ๆ ทั้ง 4 คน ซึ่งออกจะตกใจและเป็นห่วงแม่ แต่ลูกสาวคนเล็กซึ่งเคยทำงานกับ ดร.ชิงชัย มาก่อน บอกว่า ถ้าจะเป็นใคร เป็น ดร.ชิงชัย น่ะดีที่สุด แต่ก็ยังไม่ได้เห็นด้วย ป้าศรีบอกลูก ๆ ว่า It’s my life นี่เป็นชีวิตของแม่นะ สุดท้ายลูก ๆ ก็ลงมติให้ทั้งหมดไปพักผ่อนร่วมกันบนเกาะสมุย ทำนองเอา ดร.ชิงชัย ไปดูตัว ก่อนจะไฟเขียว

ความรักในวันสูงวัยของทั้งสองท่าน หากจะว่าไปแล้วดูจะเป็นเรื่องของสติและเหตุผลไม่น้อยกว่าโรมานซ์ ประสบการณ์ความพลัดพราก และด้วยอายุที่กำลังจะก้าวเข้าสู่วัยเกษียณ ทำให้ทั้งสองมองความเป็นปัจจุบันเป็นที่ตั้ง โดยมองว่าแต่ละวันนั้นมีความหมายเกินกว่าจะปล่อยให้มันผ่านเลยไป จึงตัดสินใจเริ่มชีวิตคู่ร่วมกันหลังการพบกันครั้งแรกประมาณ 6 เดือน

จากวันแรกพบและประทับใจกัน ...จนถึงวันนี้ ความรักของทั้งสองท่านเป็นความสุขแบบเย็น ๆ สบาย ๆ แตกต่างจากความรักในวัยหนุ่มสาว เป็นความรักความผูกพันที่ไม่ผูกมัด แต่ยอมรับในตัวตนซึ่งกันและกันทั้งในข้อดีและข้อเสีย ที่สำคัญ ป้าศรียังบอกว่า “เราเป็นคนตลก ๆ ทั้งคู่ เลยมีเรื่องคุยให้หัวเราะกันได้ทุกวัน” 

“การเป็นผู้สูงอายุ ถ้าต้องตัดสินใจทำอะไรที่คิดว่าถูกและดีกับชีวิต ไม่ต้องคิดมาก ทำไปเลย เพียงแต่เปิดทางไว้ให้แก้ไขได้ อย่างกับลุงเจเจนี่ ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดทุกข์ที่จะอยู่ด้วยกันก็แยกกันได้” ป้าศรีบอกกับเรา

ในท่ามกลางความสุขแบบเย็น ๆ สบาย ๆ คือความสัมพันธ์ที่ยอมรับในตัวตน และไม่ยึดติด ทำให้ทุกวันของทั้งสองท่านกลายเป็นวันแห่งความรักอยู่เสมอ 

ฟังคลิปสัมภาษณ์ ดร.ชิงชัย หาญเจนลักษณ์ รายการ Podcast สมองใส ใจสบาย ตอน “รับมืออย่างไรในวันพลัดพราก” ที่ https://lnns.co/93t6VhPHpzs และคลิปสัมภาษณ์ คุณหญิงจำนงศรี และ ดร.ชิงชัย หาญเจนลักษณ์ รายการ Podcast สมองใส ใจสบาย ตอน “เริ่มความสัมพันธ์ใหม่ในวันสูงวัย” ที่ https://lnns.co/lXV6MrwCHWt