นโยบายความเป็นส่วนตัว
สำหรับผู้ใช้งานแอปพลิเคชันของ
บริษัท ชีวามิตร วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด
นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้ใช้งานแอปพลิเคชันของบริษัท ชีวามิตร วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด (หรือเรียกว่า “ผู้ใช้”) ที่เข้ามาใช้งานแอปพลิเคชันของบริษัทฯ เพื่อประโยชน์และความเข้าใจในการใช้บริการจากทางบริษัทฯ ขอผู้ใช้ได้โปรดอ่านและทำความเข้าใจนโยบายฯ ฉบับนี้โดยละเอียด ทั้งนี้ คำจำกัดความใด ๆ ที่ปรากฏในนโยบายฯ ฉบับนี้ ให้มีความหมายตามที่กำหนดไว้ นโยบายฯ ฉบับนี้อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (หรือเรียกว่า “พระราชบัญญัติฯ”) โดยบริษัทฯ มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งตามกฎหมายเรียกว่า “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” ส่วนผู้ใช้บริการที่ได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัทฯ ถือเป็น “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” ตามกฎหมาย
ข้อ 1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม โดยบริษัทฯ จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้เมื่อผู้ใช้สมัครใช้บริการ เข้าใช้บริการ ติดต่อเข้ามายังช่องทางต่าง ๆ ของบริษัทฯ เพื่อขอความช่วยเหลือในการใช้งาน (Support team) หรือเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน ทั้งนี้ บริษัทฯ จะไม่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้จากแหล่งที่มาอื่นที่ไม่ใช่ของผู้ใช้โดยตรง เว้นแต่กรณีที่ บริษัทฯ ได้แจ้งผู้ใช้ถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้จากแหล่งที่มาอื่นภายใน 30 วัน และได้รับความยินยอมจากผู้ใช้แล้ว หรือเป็นการเก็บรวบรวมที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอม ตามพระราชบัญญัติฯ มาตรา 24 หรือมาตรา 26 ในการนี้ บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ดังต่อไปนี้
(1) ข้อมูลที่บ่งชี้ตัวตน อาทิ ชื่อ นามสกุล อายุ วันเกิด เพศ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน ลายมือชื่อ
(2) ข้อมูลช่องทางการติดต่อ อาทิ ที่อยู่ สถานที่ติดต่อ หมายเลขโทรศัพท์
(3) ข้อมูลส่วนตัว อาทิ ชื่อบัญชีผู้ใช้ รหัสผ่าน
(4) ข้อมูลทางเทคนิค อาทิ Google Analytics หมายเลขระบุตำแหน่งคอมพิวเตอร์ (IP Address) ข้อมูลการเข้าระบบ ข้อมูลการใช้งาน และ การตั้งค่า (log)
(5) ข้อมูลความคิดเห็น อาทิ ความสนใจของผู้ใช้ที่มีต่อบริการต่าง ๆ ของบริษัทฯ (เช่น ความประสงค์ในการเป็นจิตอาสา) ความพึงพอใจของผู้ใช้ต่อบริการที่ได้รับ และความเห็นต่อการให้ บริการของบุคลากร เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ
(6) ข้อมูลเกี่ยวกับการทำหนังสือแสดงเจตนาเลือกวิธีการรักษาในช่วงสุดท้ายของชีวิต (Advance Directive) อาทิ ความประสงค์ในการปฏิเสธการรักษาและความประสงค์อื่น ๆ (เช่น ประเภทของบริการสาธารณสุขที่ไม่ต้องการได้รับ การดูแลแบบประคับประคอง สถานที่เสียชีวิต การพูดคุยกับแพทย์เกี่ยวกับการรักษาในช่วงสุดท้ายของชีวิต หน่วยงานดูแลแบบประคับประคอง แพทย์ผู้ดูแล หรือแพทย์ที่ไว้วางใจ) และเจตนาอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการดูแลในช่วงสุดท้ายของชีวิต (เช่น ความประสงค์ที่จะได้รับการบรรเทาความเจ็บปวด ความประสงค์ในการบริจาคอวัยวะ ความประสงค์ที่จะได้รับการเยียวยาทางจิตใจ ความประสงค์เกี่ยวกับการปฏิบัติตามประเพณีและความเชื่อทางศาสนา) วัน เดือน ปีที่ทำหนังสือแสดงเจตนา ข้อมูลเกี่ยวกับผู้เขียนหรือพิมพ์หนังสือแสดงเจตนา พยาน หรือบุคคลผู้ได้รับมอบอำนาจให้เป็นผู้อธิบายความประสงค์ที่แท้จริงของผู้ทำหนังสือแสดงเจตนา
(7) ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน อาทิ ข้อมูลสุขภาพ (เช่น ข้อมูลโรคประจำตัว ประวัติในการรักษา) ข้อมูลศาสนา (เช่น ความประสงค์เกี่ยวกับการปฏิบัติตามประเพณีและความเชื่อทางศาสนา) และ/หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนอื่นใดตามที่ท่านเลือกเปิดเผยให้แก่บริษัทฯ ในการทำหนังสือแสดงเจตนาเลือกวิธีการรักษาในช่วงสุดท้ายของชีวิต (Advance Directive)
(8) ข้อมูลอื่น ๆ อาทิ รูปภาพ ข้อความ ไฟล์งาน เสียง และวิดีโอที่บริษัทฯ ได้รับจากผู้ใช้
ผู้ใช้มีหน้าที่ตรวจสอบว่าข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลใด ๆ ที่ให้แก่บริษัทฯ นั้นถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด โดยหากมีการเปลี่ยนแปลง ผู้ใช้จะต้องแจ้งให้บริษัททราบเพื่อทำการปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้อง ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจดำเนินการต่าง ๆ รวมทั้งขอข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อยืนยันความถูกต้องสมบูรณ์ของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้
ข้อ 2 วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ตามที่ได้ชี้แจงไว้ใน นโยบายฯ ฉบับนี้ โดยขอความยินยอมจากผู้ใช้ก่อน เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ สามารถอาศัยข้อยกเว้นโดยชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
(1) เพื่อระบุตัวตนของผู้ใช้
(2) เพื่อการบริหารจัดการด้านการรักษาความปลอดภัยอันเกี่ยวกับการบริการ
(3) เพื่อประชาสัมพันธ์ในเรื่องการให้บริการ หรือการเปลี่ยนแปลงการให้บริการ
(4) เพื่อส่งเสริมการตลาด และการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดใด ๆ อันเกี่ยวกับการให้บริการ
(5) เพื่อให้ความช่วยเหลือ และแก้ปัญหาในด้านเทคนิคหรือปัญหาต่าง ๆ อันเกี่ยวกับการบริการ
(6) เพื่อการปฏิบัติตามหน้าที่ของบริษัทฯ ที่กฎหมายกำหนด
(7) เพื่อติดต่อสื่อสารกับผู้ใช้
(8) เพื่อการให้บริการ และองค์ความรู้ต่าง ๆ แก่ผู้ใช้อย่างเหมาะสม เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเนื้อหาในแพลตฟอร์มออนไลน์ เว็บไซต์ และช่องทางโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ของบริษัทฯ เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้ และเพื่อให้การใช้งานของผู้ใช้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
หากผู้ใช้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามแก่บริษัทฯ อาทิ บุคคลในครอบครัวของผู้ใช้ ผู้ใช้จะต้องแจ้งรายละเอียด ตามนโยบายฯ ฉบับนี้ให้แก่บุคคลที่สามดังกล่าวนั้น และขอความยินยอมจากบุคคลที่สามนั้น ในกรณีที่ต้องได้รับความยินยอม โดยผู้ใช้มีหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องและความครบถ้วนสมบูรณ์ของ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ใช้ให้แก่บริษัทฯ และแจ้งให้บริษัทฯ ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ไว้ นอกจากนี้ ผู้ใช้จะต้องดำเนินการ เพื่อให้บริษัทฯ สามารถเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ของบุคคลที่สามนั้นได้ตามกฎหมาย และตามที่กำหนดไว้ในนโยบายฯ ฉบับนี้ บริษัทฯ จะไม่กระทำการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ เพื่อประโยชน์อื่นใดที่นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้กับผู้ใช้ไว้ก่อนหรือขณะเก็บรวบรวม
ทั้งนี้ หากบริษัทฯ ไม่สามารถเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ได้อธิบายไว้ในนโยบายฯ ฉบับนี้ บริษัทฯ อาจไม่สามารถให้บริการแก่ผู้ใช้ ปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา ปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด หรือดำเนินการตามความสัมพันธ์อื่นใดที่บริษัทฯ มีกับผู้ใช้ต่อไปได้
ข้อ 3 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ความลับและข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง บริษัทฯ จะไม่เปิดเผยความลับหรือข้อมูลส่วนบุคคล ของผู้ใช้ให้แก่บุคคลภายนอกหรือองค์กรอื่นใด เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ หรือการทำตามคำร้องขอของผู้ใช้ กรณีที่กฎหมายบังคับ เช่น การทำตามคำสั่งศาล หรือหมายศาล เป็นต้น หรือเป็นกรณีบริษัทฯ สามารถอาศัยข้อยกเว้นโดยชอบด้วย
ในการนี้ บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ให้แก่บุคคลภายนอก [ทั้งที่อยู่ภายในประเทศหรือ นอกประเทศไทย] เช่น ผู้ให้บริการภายนอกด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและผู้ให้บริการระบบคลาวด์ของบริษัทฯ หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย หรือผู้บังคับใช้กฎหมาย เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ได้ชี้แจงไว้ในนโยบายฯ ฉบับนี้
ข้อ 4 การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
บริษัทฯ อาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ให้แก่บุคคลภายนอกที่อยู่ในต่างประเทศ เช่น ผู้ให้บริการระบบคลาวด์ของบริษัทฯ เพื่อการใช้งานระบบคลาวด์
ทั้งนี้ ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลบางรายอาจอยู่ในประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติฯ ยังไม่มีการประกาศกำหนดว่าประเทศดังกล่าวมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ
ดังนั้น ในกรณีที่บริษัทฯ จำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ไปยังประเทศปลายทางที่มีมาตรฐานการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เทียบเท่ากับมาตรฐานที่กำหนดตามพระราชบัญญัติฯ บริษัทฯ จะปฏิบัติตามขั้นตอน และมาตรการที่เหมาะสมเพื่อให้การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้มีความปลอดภัยหรือเป็นกรณีที่การโอนดังกล่าวได้รับอนุญาตให้สามารถกระทำได้ตามพระราชบัญญัติฯ โดยบริษัทฯ อาจเข้าทำสัญญากับบุคคลภายนอกที่ได้รับ ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้จะได้รับการคุ้มครองตามมาตรฐานการคุ้มครองที่ เหมาะสมเทียบเท่ากับมาตรฐานที่กำหนดตามพระราชบัญญัติฯ
ข้อ 5 ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ไว้ตลอดระยะเวลาที่ผู้ใช้ใช้บริการของบริษัทฯ และเป็นระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันที่ยกเลิกบริการ ทั้งนี้ ตามรายละเอียดในนโยบายฯ ฉบับนี้และตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ไว้เป็นระยะเวลานานกว่านั้นตามความจำเป็นอื่นๆ อาทิ เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัทฯ เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายหรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
ข้อ 6 ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถ
ในกรณีที่ผู้ใช้เป็นผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ซึ่งถือเป็นผู้เยาว์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ผู้ใช้ต้องดำเนินการ ให้มั่นใจว่า ผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำแทนผู้ใช้ได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ สำหรับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ตามที่กฎหมายกำหนด ในกรณีผู้ใช้เป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ ผู้ใช้ต้องดำเนินการให้มั่นใจว่า ผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้ใช้แล้วแต่กรณี ได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ สำหรับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ตามที่กฎหมายกำหนด
ข้อ 7 มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ไว้เป็นอย่างดี โดยมีมาตรการด้านเทคนิค (Technical Measure) และมาตรการด้านการบริหารจัดการ (Organizational Measure) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (Physical Measure) เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยปราศจากอำนาจหรือโดยไม่ชอบ
ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากบริษัทฯ ยังมีหน้าที่ต้องรักษาข้อมูล ส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่บริษัทฯ กำหนดขึ้นอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ บริษัทฯ ใช้ระบบฐานข้อมูล Cloud ที่ได้มาตรฐานสากลของโลกซึ่งมีการป้องกันความปลอดภัยของข้อมูล เทียบเท่าระดับสากล
ข้อ 8 สิทธิของผู้ใช้เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิของผู้ใช้ในข้อนี้เป็นสิทธิตามพระราชบัญญัติฯ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องที่ผู้ใช้ควรทราบ โดยผู้ใช้สามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่บริษัทฯ กำหนดไว้ก่อนหรือในขณะหรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่บริษัทฯ กำหนดขึ้น
8.1 สิทธิในการขอถอนความยินยอม: ผู้ใช้มีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้เมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของบริษัทฯ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ผู้ใช้อยู่ (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ผู้ใช้ให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น)
8.2 สิทธิในการขอเข้าถึง ขอรับข้อมูลหรือสำเนาข้อมูล: ผู้ใช้มีสิทธิขอเข้าถึง หรือรับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ และขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ผู้ใช้ รวมถึงขอให้เปิดเผย การได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ใช้ไม่ได้ให้ความยินยอมว่าบริษัทฯ ได้ ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้มาได้อย่างไร
8.3 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูล: ผู้ใช้มีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯมีเกี่ยวกับผู้ใช้ในรูปแบบที่ได้มีการ จัดระเบียบและสามารถอ่านหรือใช้งานได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นได้
8.4 สิทธิในการคัดค้าน: ผู้ใช้มีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้เมื่อใดก็ได้ ในกรณีดังต่อไปนี้
(1) เมื่อกฎหมายให้อำนาจบริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ได้โดย ไม่ต้องขอความยินยอมจากผู้ใช้ก่อน ทั้งนี้ ภายใต้ข้อยกเว้นตามกฎหมาย
(2) เมื่อบริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาด แบบตรง
(3) เมื่อบริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษา วิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติเว้นแต่เป็นการจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์ สาธารณะของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ ภายใต้ข้อยกเว้นตามกฎหมาย
8.5 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล: ผู้ใช้มีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
8.6 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล: ผู้ใช้มีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคล เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของได้ ดังต่อไปนี้
(1) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ไม่มีความจำเป็นที่บริษัทฯ จะเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
(2) เมื่อผู้ใช้ได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมและบริษัทฯ ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ได้
(3) เมื่อผู้ใช้ใช้สิทธิคัดค้านตาม ข้อ 10.3 และบริษัทฯ ไม่อาจปฏิเสธคำขอได้ตามกฎหมาย
(4) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ได้ถูกเก็บรวมรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
8.7 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล: ผู้ใช้มีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ ในกรณีดังต่อไปนี้
(1) เมื่อบริษัทฯ อยู่ในระหว่างการตรวจสอบตามที่ผู้ใช้ร้องขอ
(2) เมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือทำลาย แต่ผู้ใช้ขอให้ระงับการใช้แทน
(3) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้หมดความจำเป็นในการเก็บรักษาตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูล แต่ผู้ใช้มีความจำเป็นต้องขอให้เก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในการตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายการปฏิบัติตามหรือ การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
(4) เมื่อบริษัทฯ อยู่ระหว่างพิสูจน์คำขอใช้สิทธิคัดค้านของผู้ใช้เพื่อพิจารณาว่าบริษัทฯ มีอำนาจตามกฎหมาย ให้ปฏิเสธคำคัดค้านของผู้ใช้หรือไม่
ข้อ 9 การปรับปรุงแก้ไขนโยบายฯ
บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการปรับปรุงหรือแก้ไขนโยบายฯ ฉบับนี้ โดยบริษัทฯ จะเผยแพร่นโยบายฯ ฉบับปรับปรุงแก้ไขในแอปพลิเคชันของบริษัทฯ ดังนั้น บริษัทฯ จึงขอแนะนำให้ผู้ใช้อ่านนโยบายฯ ทุกครั้งเข้าใช้งาน หรือมีการใช้บริการจากแอปพลิเคชันของบริษัทฯ ทั้งนี้ หากการปรับปรุงหรือแก้ไขนโยบายฯ มีผลกระทบต่อผู้ใช้อย่างมีนัยสำคัญ บริษัทฯ จะแจ้งให้ผู้ใช้ทราบถึงการปรับปรุงหรือแก้ไขดังกล่าว และขอความยินยอมจากผู้ใช้ ในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นต้องดำเนินการเช่นนั้นตามที่กฎหมายกำหนด
ข้อ 10 การติดต่อบริษัทฯ
หากผู้ใช้มีข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการขอใช้สิทธิตามนโยบายฯ ฉบับนี้ ผู้ใช้สามารถติดต่อบริษัทฯ ได้ผ่านช่องทางดังนี้
- อีเมล: Cheevamitr@gmail.com
- โทร: 084-095-5564 (วันเวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ 09.00-18.00 น.)
สถานที่ติดต่อ: บริษัท ชีวามิตร วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด เลขที่ 3/88-89 ซอย ส.เกียรติชัย 1 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ (สำนักงานใหญ่) หมายเหตุ: ภายใต้พระราชบัญญัติฯ เอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิต่าง ๆ ตามกฎหมายให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบเท่านั้น โดยที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่จำเป็นต้องยินยอมตามเอกสารฉบับนี้