Knowledge cover image
12 สิงหาคม 2565
  1. คลังความรู้
  2. End Game

End Game

เมื่อชีวิตต้องปิดเกม...


เรื่องโดย ทีม Content ชีวามิตร

เคยได้ยินคนเปรียบเปรยว่า ชีวิตคนเราหมือนเกมที่ต้องใช้ทักษะในการเล่น เพื่อเอาชีวิตรอด หรือให้ผ่านอุปสรรคในแต่ละด่านที่ถูกกำหนดมา End Game อาจจะตีความหมายของชีวิตเอาไว้อย่างนั้น แต่เนื้อหาในภาพยนตร์สารคดีที่มีความยาวเพียง 40 นาทีเรื่องนี้ เลือกหยิบเอาด่านสุดท้ายตอนใกล้จบเกม หรือ “ภาวะใกล้ตาย” มานำเสนอ


End Game พาเราไปสัมผัสกับการตัดสินใจที่ยากที่สุดในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตผู้ป่วย 5 คน คือ ผู้ป่วยมะเร็งที่ครอบครัวมีความคิดเห็นขัดแย้งกันว่า จะเลือกยื้อ หรือเลือกให้เธอจบชีวิตตามธรรมชาติ ผู้ป่วยมะเร็งอีกคนที่ขอเลือกกลับไปใช้ช่วงเวลาสุดท้ายที่บ้าน ผู้ป่วยโรคเนื้องอกและมะเร็งในมดลูกที่ตัดสินใจเสี่ยงรับการรักษาด้วยคีโม เพราะหวังยืดชีวิตตัวเองออกไปอีกไม่กี่เดือน ผู้ป่วยโรคไตผู้ตัดสินใจหยุดฟอกไตและการรักษาทุกอย่าง แล้วย้ายตัวเองมาอยู่ในศูนย์ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย (Hospice) และผู้ป่วยด้วยโรคที่ทำให้เธอมีอาการหอบ ผู้พยายามปลดล็อคความกลัว และทำความคุ้นเคยกับความตายในช่วงสุดท้ายของชีวิต



ทุกเคสที่นำเสนอในสารคดีเรื่องนี้ ทำให้เราได้สัมผัสถึงความรู้สึกหลากหลายจากมุมมองของทั้งตัวผู้ป่วยและครอบครัว จนต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า หากช่วงเวลานั้นของตัวเรามาถึง เราจะตัดสินใจอย่างไร? จะบอกกล่าวกับคนในครอบครัวไว้ล่วงหน้าอย่างไร?


เพราะความจริงที่คนส่วนใหญ่ต้องเผชิญในขณะนั้น คือ ความยากที่ “ใจ” เมื่อต้องตัดสินใจเดินเข้าสู่ตอนจบชีวิตของตัวเอง หรือการตัดสินใจปล่อยคนที่เรารักจากไป ท่ามกลางความรู้สึกลังเลสับสนว่า “ไม่พยายามรักษาอย่างเต็มที่หรือเปล่า” “กำลังทอดทิ้งให้เขาตายเร็วขึ้นหรือเปล่า”



แต่คำตอบก็มีอยู่... คุณหมอ BJ Miller แพทย์ผู้เชี่ยวชาญการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง (Palliative Care) และดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ประจำ Zen Hospice Center เป็นอีกหนึ่งผู้มีประสบการณ์รอดอย่างหวุดหวิดจากโลกแห่งความตาย เมื่ออายุ 19 เขาเคยถูกไฟฟ้าช็อตทั้งร่าง จนต้องตัดแขนซ้ายและขาสองข้าง จนเป็นแรงบันดาลใจทำให้เขาอุทิศตัวให้กับการให้คำปรึกษาผู้ป่วยที่กำลังเผชิญกับความตาย


“การเป็นเพื่อนกับความตายอาจจะเป็นเรื่องยาก แต่อยากให้มีความสัมพันธ์บางอย่างกับมัน ไม่จำเป็นต้องเป็นเพื่อนก็ได้ จะได้ไม่กลัวกับตัวอะไรไม่รู้ที่อยู่ในตู้ ที่เราไม่กล้ามองตรง ๆ ไม่เคยเห็น ไม่เคยสัมผัสมัน” คุณหมออธิบายเรื่องนี้ให้กับผู้ป่วยที่บอกว่า เธอไม่สามารถตีซี้กับความตายได้ เธอยังรักการมีชีวิตอยู่ และคิดว่าสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ การไม่รู้และควบคุมมันไม่ได้


นั่นเป็นเรื่องจริง เพราะทุกคนไม่เคยรู้ว่า ตอนตายเราจะรู้สึกอย่างไร ตายแล้วรู้สึกอย่างไร หรือตายแล้วจะไปไหน คุณหมอ Miller บอกว่า “เราจึงควรทำความคุ้นเคยกับมันไว้บ้าง เพราะถึงอย่างไรทุกคนก็ต้องตาย นั่นคือเป้าหมายสำคัญยิ่งกว่าการพยายามไขปริศนาในสิ่งที่เราไม่รู้ และไม่มีใครตอบได้”


สุดท้ายแล้ว ผู้ป่วยทุกเคสที่ปรากฏในสารคดีเรื่องนี้ ต่างก็เดินทางไปถึงตอนจบของเกมชีวิตในรูปแบบแตกต่างกัน แต่บทสรุปของเรื่องจากคุณหมอ Miller นั้น อธิบายไว้อย่างน่าประทับใจ


“เมื่อใครสักคนตาย พวกเราก็มาห้อมล้อมร่างของเขาแล้วโปรยดอกไม้ลงบนร่างนั้น ช่างงดงามและเรียบง่าย มันเป็นวิธีบอกความจริงกับเราว่า คนคนนั้นได้จากไปแล้ว ภาพการจากลาครั้งสุดท้ายที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศก คือร่างที่ประดับประดาด้วยดอกไม้อย่างสมเกียรติ เป็นการประพรมความเศร้าโศกด้วยความงดงาม ความเศร้าโศกไม่ง่าย แต่มันอาจปวดร้าวและงดงามได้”


พวกเราต่างวิ่งหนีความตาย แต่ความตายคือส่วนหนึ่งของชีวิต ...แล้วคุณล่ะ คิดอย่างไรกับ “ตอนจบ” ของเกมชีวิตนี้



ขอบคุณภาพประกอบจากสารคดี End Game โดย Netflix


ทีม Content ชีวามิตร avatar image
เรื่องโดยทีม Content ชีวามิตรชีวามิตรเชื่อว่า ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะมีคุณภาพชีวิตระยะท้ายที่ดี และจากไปอย่างมีความสุข

COMMENT

ความคิดเห็น 0 รายการ

User avatar image

RELATED

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด Krungthai ads