- คลังความรู้
- มหัศจรรย์ห้องสมุดเที่ยงคืน
มหัศจรรย์ห้องสมุดเที่ยงคืน
โอกาสครั้งใหม่ กับความเสียใจครั้งเก่า
เรื่องโดย ทีม Content ชีวามิตร
ไม่จำเป็นต้อง “เข้าใจชีวิต” แค่ “ใช้ชีวิต” ไปก็พอ...
ประโยคหนึ่งที่ “มหัศจรรย์ห้องสมุดเที่ยงคืน” ย้ำกับเราในขณะอ่านหนังสือเล่มนี้อยู่เสมอ
เรื่องราวของ นอรา ซี้ด หญิงสาวที่ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง เพื่อหนีจากความล้มเหลวผิดหวังซ้ำ ๆ จนทำให้เธอกลายเป็นโรคซึมเศร้า กลายเป็นคนไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง แต่การตัดสินใจจบชีวิต กลับทำให้เธอตื่นขึ้นมาในห้องสมุดที่หยุดเวลาไว้ ณ เที่ยงคืน และได้พบกับมิสซิสเอล์ม บรรณารักษ์ห้องสมุดที่เธอเคยสนิทสมัยเรียนมัธยม
มิสซิสเอล์มให้นอราเปิดอ่านหนังสือบันทึกความเศร้าเสียใจในตลอดชีวิตที่ผ่านมา ก่อนให้เธอเลือกลองใช้ชีวิตในแบบที่คิดว่า ถ้าวันนั้นเลือกแบบนั้น มันอาจจะลงเอยได้ดีกว่านี้
เราทุกคนก็น่าจะเคยถามตัวเองแบบนี้เหมือนกันใช่ไหมว่า “ถ้าตอนนั้นเลือกแบบนั้น ชีวิตจะลงเอยแบบนี้ไหม” หรือเคยตัดพ้อกับตัวเองว่า “รู้งี้ เลือกแบบนั้นดีกว่า…” แต่เอาจริง ๆ แล้ว ไม่มีใครแม้สักคนบนโลกนี้ที่รู้ว่า “ถ้าเลือกแบบนั้น มันจะลงเอยแบบไหน” นอกเสียจากต้องไปลองใช้ชีวิตในแบบนั้นดูเอง และนอราก็ได้โอกาสนั้น…
แต่คำตอบที่เธอได้รับก็ไม่ใช่คำตอบอย่างชัดเจนว่า ชีวิตในแบบที่คิดว่าน่าจะดีกว่า มันดีกว่าที่เป็นอยู่จริงไหม หรือสมบูรณ์แบบที่สุดจริงไหม เพราะสุดท้ายแล้ว ไม่ว่าชีวิตแบบไหนก็ยังต้องเจอกับความทุกข์ ความเศร้า ความผิดหวัง หรือเสียใจ เป็นปรากฏการณ์อันหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะฉะนั้น “อย่าไปเพ่งเล็งชีวิตมากนัก แค่มองเห็นมัน” คำตอบนี้คล้ายหลักธรรมข้อหนึ่งที่พวกเราน่าจะคุ้นเคยกันดีคือ “ให้มีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน”
หลังจากได้ลองใช้ชีวิตในแบบที่นอราเคยคิดว่ามันน่าจะดีกว่าไปมากมายหลายชีวิต เธอยังค้นพบอีกว่า แม้ในชีวิตดั้งเดิมดูเหมือนมีแต่ความล้มเหลว ผิดหวัง เสียใจ แต่ก็มีคุณค่าบางอย่างซ่อนอยู่ คุณค่าที่เธอมองข้ามไปเพราะไปมุ่งขยายความเศร้าเสียใจให้ใหญ่จนบดบังตา แต่พอถอยกลับมาเป็นชีวิตอื่น กลับทำให้มองเห็นคุณค่านั้นชัดเจนขึ้น ดังประโยคหนึ่งในหนังสือว่า “อย่าดูถูกความสำคัญอันยิ่งใหญ่ของสิ่งเล็ก ๆ” ปลายทางอาจพบว่า เราได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ไปแล้วโดยไม่รู้ตัว
อีกแง่มุมหนึ่งที่น่าสนใจจากหนังสือเล่มนี้ คือเรื่องของ “ความตาย” นอราที่พยายามจบชีวิตตัวเอง เพราะคิดว่ามันคือทางออกของความทุกข์ทรมาน มัน “อาจ” เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในขณะนั้น แต่เมื่อเธออยู่ในระหว่างโลกของความเป็นกับโลกของความตาย เธอกลับพบว่า แท้จริงแล้ว เธออยากมีชีวิตอยู่ และแท้จริงแล้ว เราไม่ได้เป็นคนเลือกความตาย แต่ความตายต่างหากที่เลือกเรา มันคือสัจธรรมที่ทุกชีวิตต้องเจอ
“มหัศจรรย์ห้องสมุดเที่ยงคืน” ไม่ใช่เรื่องราวที่บอกให้เรายอมจำนนกับชีวิต แม้บางครั้งจะคิดว่า ชีวิตนี้มันเป็นหายนะ เราไม่สามารถผ่านมันไปได้ด้วยดีหรอก แต่หนังสือเล่มนี้บอกกับเราว่า “แค่ยอมรับ” แล้วลองมองกลับไปบนเส้นทางที่เดินผ่านมา มีกี่ครั้งที่เราทุกข์ใจจนคิดว่าไม่อาจก้าวข้ามมันได้ แต่เราก็ผ่านมาได้ เพราะคงไม่ได้เกิดเหตุการณ์แบบนี้แค่ครั้งเดียวแน่นอนในชีวิตของทุก ๆ คน
อยากแนะนำให้อ่านหนังสือเล่มนี้ แล้วมองชีวิตแบบไม่ต้องตั้งคำถาม แค่มองให้เห็น บางทีคำตอบที่คุณค้นหามาตลอด อาจจะอยู่แค่ตรงหน้า
ตรงจุดเล็ก ๆ ที่เราเคยมองข้าม เพราะคิดว่าไม่สำคัญ