- คลังความรู้
- เสียชีวิตที่บ้านต้องดำเนินการอย่างไร
เสียชีวิตที่บ้านต้องดำเนินการอย่างไร
ขั้นตอนตามกฎหมายที่จัดการได้ด้วยตนเอง
เรื่องโดย ทีม Content ชีวามิตร
หลายครั้งที่มีคนเล่าว่า เวลาพ่อแม่หรือคนที่เรารักเจ็บป่วยในระยะท้าย และต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลานาน มักจะเรียกร้อง “อยากกลับบ้าน” หรือ “ขอกลับไปตายที่บ้าน” เพราะบ้านเป็นสถานที่ที่ทำให้รู้สึกอุ่นใจและปลอดภัย เมื่อต้องเจ็บป่วย หรือนอนติดเตียงเป็นเวลานาน และแพทย์วินิจฉัยแล้วว่า โรคที่เป็นอยู่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ การได้กลับไปดูแลแบบประคับประคอง (Palliative Care) ที่บ้านย่อมเป็นความปรารถนาของผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยมีสุขภาพจิตดีขึ้นได้อีกทางหนึ่ง
และหากครอบครัวมีความตั้งใจจะดูแลผู้ป่วยจนกระทั่งเสียชีวิตที่บ้าน จะต้องมีการเตรียมพร้อมอย่างไร โดยเฉพาะการจัดการเรื่องต่าง ๆ หลังจากเสียชีวิต ชีวามิตรขอนำข้อมูลที่จำเป็นต้องรู้มาฝากกันค่ะ
ตาม พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร์ พ.ศ.2534 ประกอบกับระเบียบสำนักทะเบียนกลาง ว่าด้วยการจัดทำทะเบียนราษฎร์ พ.ศ.2534 กรณีมีผู้เสียชีวิตที่บ้าน จะต้องดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้
1 แจ้งตำรวจท้องที่ทางโทรศัพท์ หรือแจ้งที่สถานีตำรวจว่ามีการเสียชีวิตที่บ้าน
2 ตำรวจจะมาที่บ้านเพื่อตรวจสถานที่เกิดเหตุ และติดต่อแพทย์นิติเวช
3 ให้ญาตินำเอกสารทางการแพทย์ที่รับรองอาการของผู้ป่วยว่า เสียชีวิตด้วยโรคใด หรือจากไปตามอายุขัยเนื่องจากชราภาพ ถือเป็นการตายตามธรรมชาติ ให้ตำรวจและนิติเวชดู รวมถึงบัตรประชาชนผู้ตาย ในกรณีท้องที่นิติเวชของโรงพยาบาลตำรวจ แพทย์นิติเวชจะไม่มาที่บ้าน จำเป็นต้องนำศพส่งสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ และหากมีประกันชีวิต ไม่ต้องนำส่งโรงพยาบาลเพื่อชันสูตร คุณหมอสามารถเขียนใบรับรองให้บริษัทประกันได้โดยตรง
4 แพทย์นิติเวชจะบันทึกว่าเสียชีวิตตามธรรมชาติ ตำรวจลงบันทึกประจำวัน ญาติไปสถานีตำรวจเพื่อขอสำเนาบันทึกประจำวัน แล้วนำไปแจ้งออกใบมรณบัตรที่สำนักงานเขต พร้อมบัตรประชาชนของผู้แจ้งการตาย บัตรประชาชนของผู้เสียชีวิต และทะเบียนบ้านที่มีชื่อผู้เสียชีวิต
5 หากเสียชีวิตในพื้นที่เขตปกครองของอำเภอ ให้แจ้งการตายต่อผู้ใหญ่บ้านเพื่อออกใบรับแจ้งการตาย แล้วนำเอกสารนี้พร้อมบัตรประชาชนของผู้แจ้งการตาย บัตรประชาชนของผู้เสียชีวิต และทะเบียนบ้านที่มีชื่อผู้เสียชีวิต ไปยื่นแก่นายทะเบียนที่อำเภอ เพื่อออกใบมรณบัตรให้
6 หากเสียชีวิตในพื้นที่เขตปกครองของเทศบาล ให้แจ้งการตายต่อสำนักทะเบียนท้องถิ่นที่เทศบาล เพื่อออกใบรับแจ้งการตาย แล้วนำเอกสารนี้พร้อมบัตรประชาชนของผู้แจ้งการตาย บัตรประชาชนของผู้เสียชีวิต และทะเบียนบ้านที่มีชื่อผู้เสียชีวิต ไปแจ้งขอออกใบมรณบัตรที่สำนักทะเบียนอำเภอ
7 นำใบมรณะไปติดต่อวัดหรือสถานที่ที่จะจัดงานพิธีศพ
8 ติดต่อรถมูลนิธิ (ปอเต็กตึ๊ง หรือร่วมกตัญญู) เพื่อนำศพส่งวัด โดยตำรวจสามารถให้ข้อมูลวิธีติดต่อรถมูลนิธิในท้องที่ได้ หรือหากทางวัดยังไม่สะดวกจัดงานศพ ทางเลือกคือให้ติดต่อโรงพยาบาล เพื่อขอฝากไว้ในห้องเย็นชั่วคราวได้
9 การฉีดน้ำยารักษาสภาพศพ (ฟอร์มาลิน) สามารถดำเนินการโดยวัดได้
10 ทางวัดจะรับจัดงานศพให้เมื่อมีสำเนาบันทึกประจำวัน และจะรับทำการเผาศพให้เมื่อได้แสดงใบมรณะบัตรแล้ว
